รายละเอียดครูภูมิปัญญาไทย

ครูภูมิปัญญาไทย

นายบุญมี สุระโคตร

ด้านเกษตรกรรม

การทำนา

ผลงาน

องค์ความรู้ ครูบุญมี สุระโคตร ประกอบอาชีพทำนาโดยเน้นการทำนาแบบอินทรีย์เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีการทำกิจกรรมการเกษตรแบบเกื้อกูลกันโดยการเพาะเห็ดฟางแบบโรงเรือน และใช้วัสดุเหลือใช้จากการเพาะเห็ดฟาง ซึ่งเป็นปุ๋ยหมักอย่างดีนำมาใส่ในนาข้าว และมีการปรับปรุงบำรุงดินซึ่งแต่เดิมมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ โดยใช้น้ำหมักชีวภาพจาก พด.2 และน้ำหมักชีวภาพที่ผลิตขึ้นเองฉีดพ่นทั่วแปลงนา จำนวน 22ไร่ หว่านเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด ปอเทือง และถั่วพร้า แล้วทำการไถกลบตอซังข้าว การใช้น้ำหมักชีวภาพ พด.2 เพื่อช่วยในการย่อยสลายฟางข้าว และเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน การหว่านพืชปุ๋ยสดเพื่อไว้ไถกลบจะช่วยตรึงไนโตรเจนในดิน และจะช่วยบำรุงดินให้ดีขึ้น ทำให้ดินร่วนซุยไม่ยึดเกาะกันแน่นทำให้เกิดช่องว่างในดินเพิ่มอากาศในดินมากขึ้น และได้นำเอาดินที่สมบูรณ์ที่สุดในแปลงนาไปเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์ ดังนี้ ดินสมบูรณ์ 1 ส่วน รำอ่อน 1 ส่วน แกลบดิบ 3 ส่วน ใบไผ่ 1 ส่วน และกากน้ำตาล 1 กก. ละลายน้ำ วิธีทำ นำเอาส่วนผสมทุกอย่างผสมหรือคลุกให้เข้ากัน แล้วรดด้วยกากน้ำตาลที่ละลายน้ำแล้วหมักไว้ในที่ร่มและแดดส่องไม่ถึงทิ้งไว้ 15 วัน จึงนำปุ๋ยที่ได้ไปใส่ในแปลงนา และนอกจากนี้ได้รณรงค์สร้างเครือข่ายภายในหมู่บ้าน หมู่บ้านใกล้เคียง ตำบลใกล้เคียง ให้ไถกลบตอซังข้าวและหว่านพืชปุ๋ยสดเพื่อปรับปรุงบำรุงดินให้สมบูรณ์ด้วย สืบเนื่องจากการไถกลบตอซังข้าวและหว่านพืชปุ๋ยสดในแปลงนาทำให้ไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีในแปลงนาเลย และสมาชิกเครือข่ายก็ลดการใช้ปุ๋ยเคมีได้เป็นอย่างดี และในการทำนาได้ปฏิบัติตามขนวนการโรงเรียนเกษตรกรทุกขั้นตอน และใช้การป้องกันกำจัดศัตรูพืชแบบผสมผสานทำให้ลดการใช้สารเคมีเป็นอย่างดี ทำให้ดีต่อสุขภาพเกษตรกรและสิ่งแวดล้อม ผลงานโดดเด่น ครูบุญมี เข้าใจและมองถึงปัญหาการทำนาอย่างเป็นระบบ ทำให้เขาตัดสินใจขุดแหล่งน้ำสำรองในนาขึ้นเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตข้าวจากที่ทำนาได้เพียง 1 ครั้งต่อปี ทำให้เขาประสบความสำเร็จในการเพิ่มจำนวนครั้งในการทำนา ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถทำนาได้ถึงสองครั้งในหนึ่งปี โดยในฤดูทำนาปกติ จะทำนาในพื้นที่ 22 ไร่ และในฤดูแล้งสามารถทำนาได้อีกครั้งในพื้นที่ 5 ไร่ จากเดิมที่สามารถทำได้เพียงครั้งเดียวต่อปี เพราะเป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน ครูบุญมีประกอบอาชีพทำนาโดยเป็นการทำนาแบบอินทรีย์ เพื่อลดต้นทุนการผลิต และยังสามารถเพิ่มผลผลิต ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม อีกทั้งไม่มีภาระหนี้สินใด ๆ โดยทำนาปีละ 2 ครั้ง คือ ทำนาปี 22ไร่ นาปรัง 5 ไร่ ทำนา 3 ประเภท คือ นาดำ, นาหว่าน และนาโยน ใช้ข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ผลผลิตนาดำ 520 กก./ไร่ นาหว่าน 500 กก./ไร่ และนาโยน 540 กก./ไร่ แปรรูปผลผลิตข้าวขาวดอกมะลิ 105 เป็นข้าวกล้อง ข้าวขาว และข้าวกล้องงอก จำหน่ายให้แก่สมาชิกเกษตรกรในหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และต่างจังหวัดจนเป็นที่ยอมรับและติดตลาดทั้งในและนอกประเทศในนามกลุ่มเกษตรกรเกษตรทิพย์ และข้าวตราลุงบุญมี สุระโคตร

ที่อยู่

155 หมู่ที่ 7 ตำบลดู่ อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ ไปรษณีย์ 33160

<< ย้อนกลับ